กฎแห่งจักรวาล (ตอนที่ 1)
Print
April 04, 20146,620 views , 0 comments
กฎแห่งจักรวาล
The Universe Law
สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะมาแบ่งปันเรื่องของ “กฎ” กัน ดูเหมือนว่าเราจะหนีไม่พ้นคำว่า “กฎ กฎ แล้วก็ กฎ” กันนะคะ เมื่อตอนเป็นเด็กอยู่ในบ้านก็มีกฎประจำบ้าน เข้าโรงเรียนก็มีกฎประจำโรงเรียน พอเข้ามหาวิทยาลัย ก็มีกฎประจำมหาวิทยาลัย ทำงานก็มีกฎประจำที่ทำงาน อยากจะหลุดพ้นจากกฎ ลาออกจากที่ทำงานมา ก็ยังมีกฎหมายประจำบ้านเมืองเรา ใหญ่กว่านั้นก็มีกฎหมายสากลอีก ดังนั้นจะเห็นว่าเมื่อเราเกิดมาบนโลกใบนี้ เห็นทีเราจะหนีไม่พ้น “กฎ” ที่คอยบังคับ ควบคุมการกระทำของเราอย่างแน่แท้ค่ะ แล้วนอกจากกฎหมายสากลที่ใช้กันในระหว่างประเทศแล้ว ยังมีกฎอะไรอีกหรือไม่ ? ลองนึกกันดูเล่นๆ สิคะ...นึกออกไหม?
บางคนอาจจะคิดว่านอกจากกฎหมายสากลแล้ว ก็คงจะไม่มีกฎอะไรนอกเหนือจากนี้อีก...ซึ่งเป็นความคิดที่ยังไม่ถูกต้องซะทีเดียวนะคะ เพราะเรายังมีกฎที่เรียกว่า “กฎแห่งกรรม หรือ Law of Karma” คอยควบคุมบังคับเราอยู่ ซึ่งกฎนี้อยู่เหนือกฎใดๆในโลก มีขอบเขตครอบคลุมทั้งจักรวาล เราจึงอาจเรียกกฎแห่งกรรมได้ว่าเป็น “กฎแหงจักรวาล”ค่ะ
กฎนี้ชาวต่างชาติจะเข้าใจมากกว่าถ้าเราใช้คำว่า “Cause and Effect” หรือ หลักแห่งเหตุ และ ผล ดังนั้นขอบอกเลยว่าถ้าใครมั่นใจว่าตัวเราเป็นคนมีเหตุมีผล หรือ เชื่อเรื่องการกระทำของเราเอง เช่น เราจะดีได้ก็ด้วยตัวเอง ไม่ใช่พึ่งดวง โชคลาภ อะไรแบบนั้น ก็ต้องสนใจ หรือ ควรมาศึกษาเรื่อง “The Law of Karma” กันนะคะ
อย่างที่เคยบอกเอาไว้แล้วนะคะว่า พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาสากลที่ไม่เหมือนใครจริงๆ เพราะไม่ได้เน้นให้คนเชื่ออย่างไร้เหตุผล แต่เน้นเรื่องการปฏิบัติ และการกระทำมากๆ จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าจริง จึงจะปักใจเชื่อค่ะ...และสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนก็เป็นเรื่องของสัจธรรม หรือ ความจริงของชีวิต โลก และจักรวาลล้วนๆ ไม่ได้มีอะไรที่จะบ่งบอกว่าพระพุทธองค์สอนให้เชื่องมงายไร้เหตุผล
แต่เนื่องจากสัจธรรมของชีวิต โลกและจักรวาลนี้มีทั้งเรื่องที่เห็น และพิสูจน์ได้ง่ายๆ จากคนทั่วๆไป และเรื่องที่เป็นเรื่องที่ไม่ได้พิสูจน์ได้ทั่วไป เช่น กฎแห่งกรรม เรื่องภพภูมิต่างๆ นรก หรือ สวรรค์ รวมถึงชีวิตหลังความตาย ซึ่งทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกันอย่างไม่สามารถจะแยกออกได้ ดังนั้นเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้นจะขอแบ่งคำสอนของพระพุทธองค์ออกเป็น 2 ส่วน ในภาพใหญ่คือ คำสอนที่เป็นเรื่องที่สามารถพิสูจน์ได้ง่ายเป็นเรื่องในปัจจุบัน และ คำสอนที่เป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ง่ายดังที่กล่าวไว้ค่ะ
ที่ว่าพิสูจน์ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีวิธีพิสูจน์นะคะ เพราะวิธีการนั้นพระพุทธเจ้าได้อธิบายไว้หมดแล้ว คือ พิสูจน์ด้วยการฝึกสมาธิทั้งสมถะ และวิปัสสนา จนกระทั่งสามารถรู้แจ้งเห็นแจ้งด้วยตัวเองได้....แต่จะมีสักกี่คนละคะที่ตั้งใจ ฝึกฝน ปฏิบัติตนตามอย่างที่ท่านสอนได้จริงๆ และที่น่าเสียดายไปกว่านั้นคือ ตัวเองยังไม่ทันได้ลงมือพิสูจน์ หรือ ลองพิสูจน์แล้วแต่ยังไม่ท่านเห็นผลอะไร ก็รีบตัดสินแล้วว่า คำสอนของท่านไม่เป็นความจริง อย่างที่เรามักได้ยินกันบ่อยๆเกี่ยวกับเรื่องนรกสวรรค์ว่า “สวรรค์ในอก นรกในใจ” หรือ “เอาสวรรค์มาล่อ เอานรกมาขู่”ทั้งๆ ที่มีพระอริยสงฆ์หลายๆ องค์ ที่ท่านสามารถพิสูจน์ด้วยตัวเองมาแล้ว...เอาว่าไม่ได้บอกให้เชื่อนะคะ แต่แค่ให้ฟังเอาไว้บ้างแล้วอย่างเพิ่งรีบตัดสิน...ที่น่าสนใจคือ เรื่องกฎแห่งกรรมเข้าข่ายทั้ง 2 กรณี คือ พิสูจน์ได้ง่ายในปัจจุบัน และพิสูจน์ได้ไม่ง่ายเฉพาะผู้ที่มีกำลังสมาธิดีเยี่ยมเท่านั้น เรามาดูกันต่อในตอนหน้านะคะว่าทั้ง 2 กรณีนี้เป็นอย่างไร
ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ : http://camillealbrecht.com/tag/universal-laws/
Tag :
LawofKarma
CauseandEffect
Believe
Buddha
Dhamma
Heaven
Hell
Demon
Angle
Monster
Animal
Monk
กฎแห่งกรรม
เหตและผล
สวรรค์
นรก
เปรต
อสูรกาย
สัตว์เดรัจฉาน
สวรรค์ในอกนรกในใจ
พระอริยสงฆ์
Comments to this story