Follow Us
Story We Share
HOME
ABOUT US
CONTACT US
FAQ
SIGN UP
LOG IN
|
MEDITATION
DHAMMA
CHILDREN & FAMILY
HEALTH
ENGLISH FOR LIFE
BOOK LOVER
JOURNEY
MISCELLANEOUS
STORY
BY Sasha
(Master)
Once upon a time in India (ตอนที่ 7)
Print
March 17, 2014
2,102 views , 0 comments
0
Once upon a time in India (ตอนที่ 7)
กาลครั้งหนึ่งในอินเดีย-ตามรอยสังเวชนียสถาน
เช้าวันใหม่ในประเทศเนปาล วันนี้เราตื่นขึ้นมากันตั้งแต่ประมาณ 6 โมง เก็บข้าวของแล้วก็ลงมา check out แล้วทานข้าวเช้า ขนของออกจากโรงแรมมุ่งหน้าไปลุมพินีวัน เป็นพุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญแห่งที่ 1 ใน 4 สังเวชนียสถานของชาวพุทธ เป็นสถานที่ประสูติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ มายาเทวีวิหาร สระโบกขรณี และเสาศิลาพระเจ้าอโศกมหาราช ที่มีความสูง 22 ฟุต 4 นิ้ว ทรงสร้างพร้อมจารึกไว้เป็นหลักฐานสำคัญ เรามารู้จักสถานที่แห่งนี้กันสักหน่อยก่อนที่จะไปลงรายละเอียดกันนะคะ
เดิมสวนลุมพินีเป็นสวนป่าสาธารณะหรือวโนทยาที่ร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน ตั้งอยู่ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์ และกรุงเทวทหะ พระนางสิริมหามายา พระมารดาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จประพาส ณ สวนแห่งนี้ ขณะที่ใกล้กำหนดพระประสูติกาล ตามธรรมเนียมประเพณีพราหมณ์หญิงซึ่งตั้งครรภ์จะต้องกลับไปคลอดบุตรที่บ้านเมืองเดิมของตน ดังนั้นพระนางจึงได้เดินทางจากกรุงกบิลพัสดุ์ มุ่งหน้ากลับไปยังกรุงเทวทหะ ซึ่งเป็นเมืองต้นตระกูลของพระนาง ระหว่างทางได้หยุดพักพระอิริยาบท ณ สวนลุมพินี แห่งนี้(ปัจจุบันทางการเรียกสถานที่นี้ว่ารุมมินเด ประเทศเนปาล) โดยประทับยืนพระหัตถ์ขึ้นเหนี่ยวกิ่งสาละ จนรู้สึกประชวรพระครรภ์ กระทั่งได้ประสูติพระสิทธัตถะกุมาร เมื่อวันศุกร์ เพ็ญเดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี
เมื่อเรานั่งรถกันมาจนถึงสวนลุมพินีแล้ว เราก็เตรียมตัวเดินเท้าเข้าไปภายในกัน ซึ่งบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้านั้นก็เต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ แต่เรามุ่งหน้ากันเข้าไปภายในกันก่อนค่ะ อากาศตอนเช้านั้นลมพัดเย็นสบายมากๆค่ะ เราเดินทางเข้าไปกันเป็นระยะทางพอสมควร (น่าจะสัก 1-2 กิโลเมตร) แต่เป็นการเดินที่มีความสุขค่ะ เพราะสองข้างทางมีต้นไม้ ดอกไม้ให้เห็นกันตลอดสองข้างทาง รู้สึกได้ว่าสวนนี้ในอดีตคงจะเป็นส่วนที่ร่มรื่นจริงๆ และเมื่อเราเดินเข้าไปจนถึง ภายในของสวนลุมพินีแล้ว เราจึงได้เห็นสิ่งก่อสร้างสีขาวทรงสี่เหลื่ยมโดดเด่นเป็นสง่า (วิหารมายาเทวี) เสาทรงกลมสูงตระหง่าน (เสาอโศก) และสระน้ำใส สวยงามค่ะ
พระวิหารมายาเทวี เป็นที่ประดิษฐานภาพหินแกะสลักพระรูปวิหารมายาเทวี ประสูติพระราชโอรส โดยเป็นวิหารเก่ามีอายุร่วมสมัยกับเสาหินพระเจ้าอโศก ทำด้วยหินทรายกลม หลังจากพระพุทธเจ้า ปรินิพพานแล้ว พระเจ้าอโศก ได้โปรดให้สร้างเสาหินขนาดใหญ่มาปักไว้ตรงบริเวณที่ประสูติ เรียกว่า เสาอโศก จารึกข้อความเป็นอักษรพราหมีว่าพระพุทธเจ้าประสูติที่ตรงนี้ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลก ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม ตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 โดยมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคือ เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน หรือมีความโดดเด่นยิ่งในประวัติศาสตร์
เมื่อเราเดินกันมาถึงข้างในทุกคนก็ตรงเข้าไปจับจองที่นั่งบริเวณด้านหน้าของวิหาร เพื่อที่เราจะได้นนั่งสวดมนต์ และนั่งสมาธิเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ ส่วนตัวแล้วรู้สึกได้อย่างเดียวเลยค่ะว่ารู้สึกสบายอกสบายใจที่ได้นั่งสมาธิ และสวดมนต์ตรงบริเวณนี และยิ่งเมื่อได้เดินไปรอบๆ สวนลุม ยิ่งรู้สึกสบายใจ เพราะอากาศดีแม้ว่าจะเป็นช่วงสายแล้ว แดดออกบ้าง แต่ลมพัดเย็นสบายตลอดค่ะ และเมื่อเราได้เข้าไปภายในวิหารมายาเทวี ยิ่งรู้สึกประทับใจค่ะ เพราะภายในมีหินแกะสลักภาพพุทธประวัติตอนประสูติดูเก่าแก่มาก และมีศิลาจารึกรอยเท้าที่สันนิษฐานว่าเป็นจารึกรอยเท้าก้าวที่เจ็ดของเจ้าชายสิทธัตถะที่ทรงดำเนินได้เจ็ดก้าวในวันประสูติ ณ ที่ตรงนี้ ปัจจุบันน่าเสียดายนิดหน่อย เพราะเขานำกระจกมาครอบเอาไว้หมดแล้ว คงเนื่องจากในแต่ละปีมีนักแสวงบุญมากันมากมาย และไปสัมผัสกับพื้นผิวโดยตรงอาจจะทำให้ร่องรอยทางประวัติศาสตร์เสียหายได้ จึงได้ครอบเอาไว้ เราเลยไม่สามารถเข้าไปดูใกล้ๆ ได้แล้วค่ะ...เมื่อเข้าไปตรงสุดท้างเดินที่เขาจะให้เราเดินเข้าไปได้แล้ว ก็นำเงินที่ตั้งใจเตรียมมาททำบุญมาจบเหนือศรีษะอธิษฐาน ระลึกนึกถึงพระพุทธคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่พักหนึ่ง หันมาอีกที...ตกใจ! เพราะมีคนรอต่อคิวยาวมากเลยค่ะ ที่สำคัญเป็นพระธิเบตด้วยค่ะ ท่านมากันเป็นกลุ่มใหญ่ เล็งแลมาดูว่าเมื่อไหร่เราจะเสร็จซะที...เห็นอย่างนี้แล้วจึงรีบวางปัจจัยทำบุญแล้วรีบหลีกทางให้คนอื่นเข้ามาบ้างค่ะ
จุดหมายต่อไปคือ เสาอโศกค่ะ เสานี้เกิดขึ้นเนื่องจากพระเจ้าอโศกมหาราช ได้เสด็จมานมัสการสังเวชนียสถานทั่วทั้งชมพูทวีป พร้อมพระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ ท่านโปรดให้พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระนำทาง และชี้จุดที่เจ้าชายสิทธัตถะประสูติ แล้วทรงสร้างอาราม พระเจดีย์และเสาศิลาจารึกไว้เป็นสัญลักษณ์ว่า ลุมพินีวันนี้มีความสำคัญอย่างไร ซึ่งเสาศิลาหินทรายของพระเจ้าอโศกยังคงตั้งอยู่ ณ ที่เดิมจนถึงปัจจุบันนี้ แต่น่าเสียดายว่าเสาอโศกส่วนใหญ่ถูกตัดส่วนบน(ซึ่งเป็นรูปสิงโตแกะสลักสวยงามประณีตมาก)ออกไปแล้ว เหลือเป็นเพียงเสาหัวด้วนที่สูงสง่า เป็นเครื่องหมายสำคัญที่แสดงถึงสถานที่ประสูติของพระพุทธองค์ เราก็ไปปิดทองกัน และก็ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกค่ะ
เวลายังเหลือเราจึงเดินอ้อมสระน้ำใส หรือ บ่อสรงสนาน ที่ได้รับการบันทึกไว้ในบันทึกของสมณะฟาเหียนในปี พ.ศ.900 และ บันทึกของสมณะเหี้ยนจัง (พระถังซำจั๋ง) ในปีพ.ศ.1181 ซึ่งยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ มาถึงตรงนี้อยากชี้แจ้งสักนิดเรื่องของพระถังซำจั๋ง ท่านมีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์ ซึ่งท่านได้เดินทางมายังอินเดียเพื่อมาศึกษาคำสอนของพระพุทธองค์ และนำคัมภีร์มากมายกลับไปยังประเทศจีน และแปลออกมาเป็นภาษาจีน และได้รับการเก็บรักษามาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นจึงมีคัมภีร์เก่าแก่ของพุทธศาสนาอยู่ในประเทศจีนส่วนหนึ่ง...ส่วนเรื่องไซอิ๋ว นั้นเป็นเรื่องที่ได้รับการแต่งขึ้นโดยนำโครงเรื่องมาจากการเดินทางของพระถังซัมจั๋ง ซึ่งไม่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์นะคะ
เมื่อเราเดินเลยสระโบกขรณีไปนิดหน่อยก็มีต้นสาละใหญ่ ซึ่งมีความร่มรื่นเช่นกัน มีพระภิกษุหลายนิกายมานั่งสมาธิที่ตรงนี้ด้วยค่ะ เราเดินเล่นกันอีกนิดหน่อย ถ่ายรูปกันจนเรียบร้อยแล้วได้เวลาก็เดินกลับออกมาตามทางเดิม และเมื่อเห็นว่ายังมีเวลาจึงแวะเดินชมสินค้าต่างๆ ที่ขายอยู่บริเวณด้านหน้าสวนลุมพินี ซึ่งก็มีร้านค้าขายของหลายชนิด มีทั้งเครื่องประดับ กระเป๋า เสื้อผ้า และ สิ่งของประดับตกแต่งบ้าน เป็นต้นค่ะ จากนั้นเราจึงแวะไปรับอาหารกลางวันที่โรงแรมที่เราพักเมื่อคืน แล้วก็นั่งทานกันมาบนรถเพื่อประหยัดเวลา และมุ่งหน้ากลับอินเดียผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองอีกครั้งหนึ่ง มีทหารขึ้นมาบนรถของเราสองคนค่ะ ทีแรกก็ดูเหมือนจะดุ แต่พอเจอคนไทยชวนถ่ายรูปก็กลายเป็นยิ้มให้กล้องซะหวานหยดย้อยเลย น่ารักมากๆ ค่ะ
เราผ่านไปยังวัดไทย 960 กันอีกครั้งคราวนี้เป็นตอนกลางวันเลยได้มีโอกาสเดินดูสถานที่ ซึ่งจัดไว้อย่างสวยงาม ร่มรื่น และเป็นธรรมชาติมากๆ ที่สำคัญและจะขาดไม่ได้เลยคือ ไปแวะทานโรตีมาอีกหลายกระทงค่ะ (ก็มันอร่อยนี่นา) และก็ทำบุญสถานที่กับเขาไปด้วย ของที่ขายภายในร้านก็มีของแปลกๆ หลายชิ้น โดยมากเห็นเป็นพวกเครื่องประดับตกแต่งร่างกาย รวมถึงตกแต่งบ้านด้วย แต่สิ่งที่คนที่นี่มักจะซื้อกลับไปก็เป็นสินค้าแบรนด์ Himalaya ที่นี่ก็มีขายหลายอย่างค่ะ คนรุมซื้อกันเพียบเลย เมื่อรถพร้อมแล้วเราก็เดินทางกันต่อ มุ่งหน้าไปยังเมืองสาวัตถี เพื่อที่จะไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญอีกหลายแห่งในเมืองนี้ ซึ่งเป็นเมืองที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้จำพรรษาอยู่ถึง 25 พรรษาทีเดียว...นั่งรถกันยาวราวๆ 7-8 ชั่วโมง ซึ่งขอบอกเลยว่าพอมาอยู่อินเดียแล้ว นั่งรถ 7-8 ชั่วโมงแบบนี้เมื่อก่อนจะรู้สึกว่านานมาก แต่ตอนนี้เฉยๆ เลยค่ะ เพราะประเทศเขากว้างใหญ่ และถนนบางพื้นที่ก็ยังไม่ดีมาก ดังนั้นกว่าจะเดินทางข้ามไปแต่ละเมืองจึงต้องใช้เวลามาก 10 ชั่วโมงขึ้นไปเป็นปกติ กว่าจะถึงก็ดึกอีกเหมือนเดิมค่ะ เราไปพักกันที่วัดเกาหลีกว่าจะได้นอนกันก็ดึก และพรุ่งนี้ก็เช้าอีกแล้ว จึงรีบนอนกันดีกว่าค่ะ...วันนี้เอาบุญมาฝากนะคะ
Tag :
India
Buddha
ลุมพินี
Lumpini
เสาอโศก
ประสูติ
สาละ
ฺBabyBuddha
สิริมหามายา
พุทธมารดา
เทวทหะ
กบิลพัสดุ์
0
Share this story
Facebook
Twitter
Google Plus
Email to friend
Write a comment
Bookmark story
Rate
To (Email)
From
Message
 
Comments to this story
Write a comment
Name
*
Mail
*
Message
*
Most Viewed
Top Rate
Most Comment
1.
views
readmore
ALL Most Viewed
1.
readmore
ALL TOP Rated
1.
comments
readmore
ALL Most Comment
Relate Story
Recent Entries
Most Shared
1.
Once upon a time in India (ตอนที่ 1)
2,708 views
readmore
All Relate Story
2.
Once upon a time in India (ตอนที่ 2)
2,358 views
3.
Once upon a time in India (ตอนที่ 3)
2,819 views
4.
Once upon a time in India (ตอนที่ 4)
3,430 views
5.
Once upon a time in India (ตอนที่ 5)
1,803 views
6.
ฝึกภาษากับวันมาฆบูชา
3,628 views
7.
วันมาฆบูชา วันแห่งความรักในพระพุทธศาสนา
4,241 views
8.
Once upon a time in India (ตอนที่ 6)
2,733 views
9.
Once upon a time in India (ตอนที่ 7)
2,103 views
10.
Once upon a time in India (ตอนที่ 8)
2,166 views
11.
Once upon a time in India (ตอนที่ 9)
1,986 views
12.
Once upon a time in India (ตอนที่ 10)
2,236 views
13.
กฎแห่งจักรวาล (ตอนที่ 1)
6,620 views
1.
เยือนอินเดีย..สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งดินแดนภาราตะ
7,010 views
readmore
All Recent Entries
2.
5 ของฝากแสนอร่อยจากเมืองตรัง
16,491 views
3.
สามเสาหลักพระพุทธศาสนาในไต้หวัน
6,834 views
4.
Complimentary Closing
20,444 views
5.
5 ที่พักชะอำ น่าพัก น่าถ่ายรูปอัพลงไอจี
2,875 views
1.
เยือนอินเดีย..สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งดินแดนภาราตะ
39 shares
readmore
ALL Most Shared
2.
สมาธิเป็นเรื่องสากล
3 shares
3.
เที่ยวสิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน ไปเองได้ไม่ง้อทัวร์
2 shares
4.
แช่โค้กภายใน 2 นาที
2 shares
5.
อาหารแก้หวัด
2 shares
Comments to this story