สามเสาหลักพระพุทธศาสนาในไต้หวัน
น่าชื่นชมเมื่อได้เห็นการทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศไต้หวัน ซึ่งเป็นที่รู้ทั่วกันว่ามีวัดใหญ่หลักๆ คือ วัดฝอกวงซัน วัดจงไถฉานซื่อ และ ฉือจี้ โดยที่วัดทั้งสามต่างก็มีจุดแข็ง และมุ่งงานเผยที่แตกต่างกันดังนี้
วัดฝอกวงซัน
วัดฝอกวงซัน หรือ มูลนิธิแสงพุทธธรรมเมืองเกาสง ผู้ก่อตั้งคือท่านซิงหวินมหาเถระเป็นปฐมเจ้าอาวาส มีชื่อเสียงทางด้านการนำพระพุทธศาสนาเข้าไปสู่ชีวิตของผู้คนได้อย่างแนบสนิท โดยท่านได้มุ่งเน้นในงานด้านการศึกษาและช่วยเหลือสังคม ท่านมีอุดมคติอยู่ว่า ให้การศึกษาเพื่อพัฒนาบุคคลากร เน้นวัฒนธรรมในงานแพร่ธรรม เน้นการสาธารณสุขในงานพัฒนาสังคม ปัจจุบันวัดฝอกวงซันมีพระสงฆ์มากกว่า 1,400 รูป (นับรวมทั้งชาย-หญิง) มีมหาวิทยาลัยฝอกวงซัน ภายในวัดจะแยกสถานศึกษาระหว่างพระภิกษุกับภิกษุณี วัดแห่งนี้มีอาณาเขตกว้างขวางปกคลุมภูเขาทั้งลูก นอกจากมีอาณาบริเวณมากมายแล้วภายในตัววัดยังมีการก่อสร้างโบถส์ที่สวยงามและรูปปั้นพระอรหันต์หลายร้ององค์ และยังมี อนุสรณ์สถานพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นส่วนที่เปิดใหม่ ซึ่งเป็นกึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ให้ความรู้ และ ยังมีอาหารเจ และขนมเจ รสชาติดี ในร้านแบบทันสมัย ทำให้ผู้คนทุกเพศทุกวัย สามารถมาเข้าวัดได้อย่างมีความสุข ซึมซับพระธรรมคำสอนผ่านกิจกรรมต่างๆ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วัดจงไถฉานซื่อ
สำหรับวัดจงไถฉานซื่อนั้นผู้ก่อตั้งคือท่านพระอาจารย์เหว่ยเจวี๋ย เจ้าอาวาสวัดจงไถฉานซื่อ มีชื่อเสียงในด้านการฝึกสมาธินิกายเซนหรือฌานสมาธิที่สืบทอดมาจากปรมาจารย์ฮุ่ยเหนิงในจีน นอกจากนี้เป็นวัดที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับสามของโลกรองจากนครวาติกัน และวัดมหายานที่ธิเบต อีกทั้งยังเป็นวัดที่มีการออกแบบให้ทันสมัยที่สุดในไต้หวัน มีรูปทรงคล้ายคนกำลังนั่งสมาธิ (ฝึกวิปัสสนากรรมฐาน) มีความสูง 150 เมตร ออกแบบโดยนาย C.Y. Lee เป็นวิศวกรคนเดียวกับผู้ที่ออกแบบตึกไทเป 101 โดยใช้หินแกรนิตมาเป็นโครงสร้างที่แข็งแกร่ง จากแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนและเหล่าบรรดาลูกศิษย์ท่านพระอาจารย์เหวยเจวี๋ยนับแสนๆ คน ระหว่างนั้นในปี ค.ศ.1999 ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่เมืองหนานโถว แผ่นดินแยก แต่วัดจงไถฉานซื่อกลับไม่เป็นอะไรเลย ยิ่งเป็นการสร้างความศรัทธาให้กับผู้คนในไต้หวันอย่างมาก
วัดฉือจี้
ทางด้านของฉือจี้นั้น ผู้ก่อตั้งคือท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน ซึ่งเป็นนักบวชหญิงมีจุดแข็งอยู่ที่การทำงานสังคมสงเคราะห์ที่มีการขยายสาขาไปทั่วโลก มีสมาชิก อาสาสมัครกระจายอยู่ทั่วโลกหลายล้านค้น ภารกิจ 4 ประการของฉือจี้ การกุศล การรักษาพยาบาล การศึกษา และวัฒนธรรมที่ดีงามของมนุษย์ เพื่อกระตุ้นการใช้ความเมตตาของพระพุทธองค์สู่การลงมือปฏิบัติ โปรดสรรพสัตว์บนโลก โดยอาศัยการพัฒนางานด้านการกุศล การรักษาพยาบาล การศึกษาและการส่งเสริมจริยธรรม ให้บรรลุเป้าหมาย งานภารกิจของฉือจี้เริ่มต้นจากหลักการ “ช่วยคนจน สอนคนรวย” ก่อเกิดเป็นการกุศล การรักษาพยาบาล การศึกษาและการส่งเสริมจริยธรรม ทั้ง 4 แล้วขยายเพิ่มเป็นแปดภารกิจ คือ การบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศ การบริจาคไขกระดูก อาสาสมัครในชุมชน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นต้น ผลักดันงานทั้ง 8 ประการไปพร้อมกัน เรียกว่า “หนึ่งย่างก้าวแปดรอยพระธรรม”
จะเห็นได้ว่าทั้งสามเสาหลักทางพระพุทธศาสนาของประเทศไต้หวันล้วนก่อสร้างด้วยขนาดพื้นที่ และสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โตโอฬาร แข็งแรง ทนทานทั้งสิ้น เพราะศาสนสถานเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยยืดอายุพระพุทธศาสนาให้ยืนยาว และแม้ว่าแต่ละวัดจะมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน แต่ไม่เคยกล่าวว่าร้าย หรือ พยายามเปรียบเทียบว่าใครดีกว่าใคร ใครสอนถูกหรือใครสอนผิด และต่างก็พยายามทำงานเพื่อช่วยเหลือสังคม และเผยแผ่พระพุทธศาสนาออกไปทั่วโลก นี่จึงเป็นตัวอย่างที่ดีที่ชาวพุทธควรจะศึกษา และเปิดรับความแตกต่างที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ การจรรโลง สืบทอดพระพุทธศาสนาให้กว้างไกลออกไปตราบนานเท่านาน
Credit: ขอบคุณภาพจากเว๊บไซต์ https://www.pinterest.com/pin/341710690447734675/
Comments to this story