การหาความสุขง่ายๆแต่ได้ผล ตอนที่ 1
เรื่องนี้ได้อ่านมาจากอีเมล์ที่เขาส่งๆ กันต่อๆมา เมื่อนานมาแล้วค่ะ อ่านแล้วรู้สึกว่าได้ข้อคิดดี แต่เมื่อนำมาแชร์ให้ทุกท่านอ่านกันอย่างนี้ หัวข้อส่วนใหญ่จะคงไว้ แต่ในรายละเอียดต่างๆ ได้มีการปรับเปลี่ยนไปบ้าง ตามประสบการณ์ และยุคสมัยที่เปลี่ยนไป...เรามาดูกันค่ะว่ามีวิธีใดบ้างที่ทำให้เรามีความสุขแบบง่ายๆ แต่ได้ผล
1. ฝึกมองตัวเองให้เล็กเข้าไว้ หมายความว่า จงเป็นคนตัวเล็ก อย่าเป็นคนตัวใหญ่ จงเป็นคนธรรมดา อย่าเป็นคนสำคัญ
ข้อนี้สำคัญค่ะเวลามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา ก็มักจะคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่โตไปเสียหมด เพราะธรรมชาติของคนเรามักมองที่ตัวเองก่อน ดังนั้นเมื่อปัญหาเกิดขึ้นจึงรู้สึกว่าเป็นปัญหาใหญ่ แต่หากเราหยุดใจที่สับสนวุ่นวายกับตัวเอง แล้วมองไปยังรอบตัวจะเห็นว่า ผู้คนมากมายในโลกใบนี้ล้วนแต่มีทุกข์ทั้งนั้น คำว่า “เราเป็นเพื่อนทุกข์” นั้นเป็นไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย ทุกคนเกิดมาก็ต้องประสบกับความทุกข์มากมาย ทั้งทางร่างกาย การพลัดพราก และไม่สมหวัง ดังนั้น ให้เข้าใจธรรมชาติของชีวิต และอย่ายึดติดกับตัวเองค่ะ แล้วเราจะมีความสุขมาก
2. ฝึกให้ตัวเองเป็นนักไม่สะสม หมายความว่า การสะสมอะไรสักอย่างนั้นเป็นภาระ ไม่มีอะไรที่เราสะสมแล้วไม่เป็นภาระยกเว้นความดี นอกนั้นล้วนเป็นภาระทั้งหมดไม่มากก็น้อย
ข้อนี้ก็จริงค่ะ เพราะการสะสมทำให้เรายึดติดกับวัตถุสิ่งของ ไม่ปล่อยว่าง ยิ่งมีการสะสมของมากเท่าไหร่ ใจเราก็ต้องแบ่งไปดูแล ผูกพันกับสิ่งเหล่านั้นซึ่งเป็นภาระทางใจ ไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นยิ่งสะสมน้อย ก็มีความกังวลน้อยตามไปด้วย เมื่อกังวลน้อย ใจเราก็อิสระมีความสุขสงบ
3. ฝึกให้ตนเองเป็นคนสบายๆ หมายความว่า อย่าไปบ้ากับความสมบูรณ์แบบ เพราะความสมบูรณ์แบบมันไม่มีจริง
หากใครไปยึดกับความสมบูรณ์แบบ ก็จะทำให้เคร่งเครียด กดดัน เพราะความผิดพลาด เป็นธรรมชาติของมนุษย์ คนที่ไม่เคยพลาด คือ คนที่ไม่เคยทำอะไรเลย และความผิดพลาดบางอย่างก็เป็นบทเรียนสอนให้เราเก่งขึ้น เพียงแต่เราต้องรู้จักปรับปรุงตนเองไม่ให้ผิดพลาดบ่อยๆ
4. ฝึกให้ตัวเองเป็นคนพูดในสิ่งที่ดีๆ มีปิยวาจา หมายความว่า ถ้าอะไรไม่ดีก็อย่าไปพูดไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิด เพราะการพูด หรือวิจารณ์ในทางเสียหายนั้น มีแต่ทำให้จิตใจตนเองขุ่นมัว
เรื่องคำพูดสำคัญมากนะคะ เคยได้ยินคำว่า “พูดอะไร ได้อย่างนั้น” ไหมคะ?มันเป็นแบบนั้นจริงๆ นะคะ คำพูดมีอิทธิพลต่อจิตใจค่ะ หากว่าเราเจอสถานการณ์แย่ๆ แต่เราหมั่นพูดในแง่บวกเข้าไว้ ก็จะส่งผลต่อจิตใจเรา และในที่สุดสิ่งดีดีก็จะเกิดขึ้นตามนั้นเลยค่ะ เช่น หากบางคนมีร้านขายของไม่มีลูกค้าเข้าร้านเลย...แต่ก็ยังยิ้มแย้ม และพูดไปเรื่อยๆ ว่า “เดี๋ยวลูกค้ามาเต็มร้านเลย” จิตใจที่สดใจ ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และคำพูดที่ไพเราะ ก็จะเรียกลูกค้าเข้ามาเต็มร้าจริงๆ ล่ะค่ะ แต่ถ้าคนเต็มร้าน แล้วพูดแต่ว่า “น่ารำคาญคนเยอะ” จิตใจก็จะขุ่นมัว หน้าตาไม่สดใส ในที่สุดคนที่เยอะแยะก็จะได้รับพลังทางลบจากเรา และก็ไม่เหลือสักคนล่ะค่ะ...มันก็เป็นแบบนี้จริงๆ
5. ฝึกให้ตัวเองรู้ธรรมชาติว่า อะไรๆ ก็ผ่านไปเสมอ หมายความว่า เวลามีความสุข ก็ให้รู้ว่า เดี๋ยวความสุขมันก็ผ่านไป เวลามีความทุกข์ ก็ให้รู้ว่า เดี๋ยวความทุกข์ก็ผ่านไป
จริงค่ะ...เวลามีสถานการณ์แย่ๆ เกิดขึ้น ก็ให้รู้ทันว่า เรื่องราวเหล่านี้ มันไม่ได้อยู่กับเราจนวันตาย ดังนั้นอย่าไปคิดมาก เมื่อมีความสุขก็อย่างไปยึดติดว่าจะต้องมีสุขไปตลอด เพราะการไปยึดติดความทุกข์มากเกินไปก็ทำให้จิตใจเราเศร้าหมองส่งผลให้สุขภาพย่ำแย่ตามไปด้วย ยึดติดกับความสุขมาก วันหนึ่งเมื่อความสุขนั้นจากเราไปเราก็จะเกิดความทุกข์อย่างแสนสาหัส เพราะไม่สามารถเรียกวันวานแห่งความสุขกลับมาได้ ดังนั้น ให้เราอยู่กับปัจจุบันและมองความสุข และความทุกข์ให้เป็นเรื่องธรรมชาติ และวางใจไว้เสมอว่า ไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างในชีวิตเดี๋ยวมันก็ผ่านไปนะคะ...อันนั้นต้องยอมรับว่าทำยากจริงๆ แต่เรามาฝึกกันนะคะ เริ่มจากเรื่องเล็กน้อยก่อน แล้วค่อยฝึกไปเรื่องที่สำคัญขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ
6. ฝึกให้ตัวเองเข้าใจเรื่องของการนินทา หมายความว่า เราเกิดมาก็ต้องรู้ตัวว่า เราต้องถูกนินทาแน่นอน ดังนั้น เมื่อถูกนินทาขอให้รู้ว่า "สิ่งนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ" แปลว่า เรายังมีตัวตนอยู่บนโลก
คนที่ใส่ใจกับคำนินทามาก ก็คือคนไม่รู้เท่าทันโลก เพราะนินทา คือของคู่กับมนุษย์โลก มีมาช้านานแล้ว แม้แต่พระพุทธเจ้า คนที่สร้างคุณงามความดีไว้กับโลกมากมายยังถูกนินทา แล้วเราเป็นใครจะไม่ถูกนินทา ดังนั้น อย่าไปใส่ใจมากนะคะ ส่วนตัวเราเอง ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องฝึกตนเองให้เป็นผู้ไม่นินทาคนอื่นนะคะ เพราะขึ้นชื่อว่านินทาแล้วไม่มีผลดีเลยจริงๆ
7. ฝึกให้ตัวเองพ้นไปจากความเป็นทาสของเงิน หมายความว่า เราต้องหัดพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่
คนเราสมัยนี้หาเงินเท่าไหร่ก็ใช้ไม่เคยพอ มีแล้วก็อยากมีอีก ถ้าเราฝึกความ “รู้จักพอ” ใช้อะไรอยู่ ก็พอใจกับสิ่งนั้น ใช้เท่าที่จำเป็น ซื้อใหม่เมื่อมีเหตุผลต้องซื้อ ไม่ใช่ซื้อของด้วยอารมณ์ และรู้จักควบคุม บริหารจัดการ รายรับ และรายจ่ายในแต่ละเดือนให้เพียงพอ และทำตามอย่างเคร่งครัดแค่นี้รับรองมีเงินเหลือสบายๆ ไม่เป็นทาสของเงินอีกต่อไปค่ะ และหากขยันทำงานมีเงินมากขึ้นก็จะมีเงินเก็บมากขึ้น และเมื่อมีเงินเหลือแล้วอย่าลืมแบ่งปันให้กับคนที่เขายังเดือนร้อนด้วยนะคะ เพราะไม่ว่าจะหามามากเท่าไหร่ แต่ในที่สุดตายไปเราก็เอาไปไม่ได้เลยนะคะ ทำได้แบบนี้สังคมนี้จะน่าอยู่ขึ้นมากเลยค่ะ...ยังไม่หมดเพียงเท่านี้เรายังมีการหาความสุขแบบง่ายๆในตอนหน้าอีกมาติดตามกันนะคะ
ขอบคุณภาพจากเว๊บไซต์ : http://www.prosperitytodolist.com/key-happiness/
Tag :
ความสุข
เพื่อน
สะสม
ยึดติด
วัตถุ
สมบูรณ์
เคร่งเครียด
ปิยวาจา
พูด
นินทา
ทาส
Comments to this story