ฮอกไกโด...สวรรค์สีขาว
Print
March 01, 20133,112 views , 0 comments
ฮอกไกโด...สวรรค์สีขาว
หากจินตนาการของใครหลายคน “สวรรค์” คือ สถานที่สีขาวบริสุทธิ์
ฮอกไกโดฤดูหนาวยามนี้ คงไม่ต่างจาก “สวรรค์บนพื้นพิภพ”
การมาเที่ยวเกาะฮอกไกโดครั้งนี้เป็นการมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเมื่อ 5 ปีก่อนทริปเกียวโต-โตเกียวของเราเจอแจ๊คพ็อตสนามบินสุวรรณภูมิถูกปิด จนทำให้ต้องนอนรอเครื่องบินกลับบ้านที่พื้นสนามบินนาริตะถึง 2 คืน!
ฮอกไกโดต้อนรับเราด้วยอุณหภูมิ –13 องศาเซลเซียส หนาวที่สุดในชีวิตที่เคยเจอ ก่อนเครื่องบินจะร่อนลงแตะพื้นรันเวย์สนามบินซึโตเซ่ เราเห็นหิมะปกคลุมพื้นที่ทุกตารางเมตรด้านล่าง ไม่ว่าจะเป็นทุ่งนา ต้นไม้ใบโกร๋น และหลังคาบ้านเรือน
6 ชั่วโมงบินตรงจากกรุงเทพฯสู่ฮอกไกโดไม่ได้สร้างความเหนื่อยให้เราเกินที่จะไปเที่ยวต่อ หลังจากแนะนำตัวกับคณะลูกทัวร์ ไกด์ก็ปูพื้นความรู้เกี่ยวกับฮอกไกโดให้ลูกทัวร์ฟัง เกาะฮอกไกโดเป็นเกาะใหญ่อยู่ทางเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น มีซัปโปโรเป็นเมืองหลวงของเกาะ เป็นศูนย์กลางความเจริญอันดับ 5 ของญี่ปุ่น แต่ฮอกไกโดเพิ่งเปิดตัวต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่เมื่อไม่นานมานี้ทำให้อะไรหลายๆอย่างยังไม่เต็มร้อยเหมือนกับเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆอย่างโอซาก้าและโตเกียว ป้ายบอกทางบางที่ยังคงมีแต่ภาษาท้องถิ่น ยืนยันคำพูดของไกด์ด้วยสีหน้าเฉยชาไร้อารมณ์ของคนขับรถของพวกเราตลอดระยะเวลา 5 วันที่นี่
สถานที่แรกที่เราไปเยือน คือ หมู่บ้านไอนุ หมู่บ้านชนพื้นเมืองของฮอกไกโด จากการแสดงของชนพื้นเมืองไอนุ และสิ่งที่เราเห็นจากพิพิธภัณฑ์ที่นี่ทำให้เราทราบว่า คนที่นี่มีอาชีพประมงและนับถือหมีเป็นเทพเจ้า เราจะเห็นได้จากการที่มีสัญลักษณ์รูปหมีอยู่ทั่วไปในเกาะ
อาหารกลางวันมื้อแรกสร้างความตื่นตาให้พวกเรามากมายกับปลาแซลมอนตัวยักษ์แล่ใส่กระทะแบนใบใหญ่มาพร้อมๆกับกุ้ง หอย และผักต่างๆ ปิ้งย่างกันสดๆตรงหน้า 4 คนต่อหนึ่งกระทะ มีข้าวพร้อมซุปให้ด้วย คนญี่ปุ่นนี่เค้ากินดุกันจัง
อิ่มหนำสำราญเรอกันดังเอ่อ พวกเราก็ถูกต้อนให้นั่งรถต่อไป ภูเขาไฟอุสึ-ภูเขาไฟโชวะ ภูเขาไฟที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของเปลือกโลกในปี 1943 (หรือปีโชวะของญี่ปุ่น เป็นที่มาของชื่อเรียก ภูเขาไฟโชวะ) เราขึ้นกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปชมวิวด้านบนภูเขา บนยอดเขาหิมะจับหนาเต็ม ขาวโพลนไปทั่ว หิมะย่ามบ่ายสะท้อนแสงอาทิตย์วิบวับสวยมาก จากด้านบนมองเห็นภูเขาไฟที่ยังมีควันลอยกรุ่นและทะเลสาบโทยะที่มีเกาะรูปร่างเหมือนปลาอยู่ตรงกลางทะเลสาบ โชคดีที่พวกเราเป็นกรุ๊ปเดียวที่ขึ้นไปในช่วงนั้น ด้านบนจึงมีแต่พวกเรา ถ่ายรูปกันสบายใจ
ลงจากภูเขาก็เดินเข้าศูนย์อนุรักษ์หมีโชวะชินซังที่อยู่ใกล้ๆกัน ไปชมความน่ารักฉลาดแสนรู้ของหมีสีน้ำตาลนับสิบๆตัวที่ใกล้สูญพันธุ์ อย่างที่บอก ชาวไอนุเชื่อว่าหมีสีน้ำตาลถือเป็นเทพเจ้าของพวกเขา ซื้อแอบเปิ้ลและขนมไปเลี้ยงหมีกัน พวกมันฉลาดมากๆ ตัวไหนยังไม่ได้รับอาหารก็มาโบกไม้โบกมือและยกมือไหว้ปลกๆ
ก่อนเข้าที่พักคืนแรกที่โนโบริเบทสึ เมืองตากอากาศขึ้นชื่อเรื่องน้ำแร่ของฮอกไกโด ทัวร์พาเราไปแวะเที่ยวจิโกกุดานิ หรือ หุบผานรก สภาพมันน่ากลัวทีเดียว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเรา และแน่นอนไฮไลท์ของเราคืนนี้ที่พลาดไม่ได้ คือ ออนเซน
ห้องพักของเราเป็นแบบเรียวกัง ตอนเอากระเป๋าเข้าไปเก็บมีเพียงห้องโล่งๆปูเสื่อทาทามิกับที่นั่ง 2 ชุด แบบนั่งกับพื้นและแบบเก้าอี้ คนญี่ปุ่นนี่เขาคำนึงถึงคนแก่ คนพิการและเด็กจริงๆ ในห้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ตู้เย็น ทีวี กระติกน้ำร้อน ชุดชงชา และชุดยูกาตะให้ ไกด์บอกว่าขณะทานอาหารเย็นในห้องอาหารของโรงแรม พนักงานจะมาปูที่นอนให้พวกเราเอง หลังอาหารชุดใหญ่อันประกอบด้วยอาหารคาวหวานในถ้วยชามกระจุ๋มกระจิ๋ม แต่ทว่า อิ่มมาก พวกเราก็ไปเดินย่อยกันในย่านโกคุราคุย่านชอปปิ้งแถวโรงแรม
Tag :
Hokkaido
ฮอกไกโด
เที่ยว
ทริป
Comments to this story