การแก้ปัญหาหน้า “มัน” (ตอนที่ 2)
สวัสดีค่ะ...มาต่อกันอีกตอนกับวิธีลดหน้ามัน ซึ่งอย่างที่บอกไว้ในตอนที่แล้วว่ายังมีอีกหนึ่งวิธีที่ฟังแล้วค่อนข้างแปลกใจว่า สามารถทำได้ด้วยหรือ คือ ใช้ยาระบายแมกนีเซียลดหน้ามัน!!! ฟังดูไม่น่าเชื่อยาระบายเกี่ยวอะไรด้วยกับความมันบนใบหน้า...วิธีนี้ได้รับการแนะนำในเว๊บไซต์ของ Paula Begoun ชาวอเมริกัน ซึ่งผู้รู้เรื่องความสวยความงาม ซึ่งเมื่อได้มาเช็คด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์จึงเห็นว่าสามารถช่วยลดความมันได้จริง...เพราะยาระบายแมกนีเซียมีส่วนผสมของ แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ ซึ่งออกฤทธิ์เป็นด่าง จึงช่วยลดสภาพความเป็นกรดบนใบหน้าซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว และยังช่วยฆ่าเชื้อโรคและดูดซับน้ำมันลองมาดูกันค่ะ
เชี่ยวชาญหลาย ๆ ท่านได้แนะนำให้ใช้ยาระบายนี้กับผิวหน้ามันได้ เหมาะสำหรับผิวมันเพื่อลดการทำงานของต่อมไขมันบนผิวหน้า มีกลิ่นคล้ายคาลามายด์เวลานำมาทาหน้า (ยาน้ำทาแก้ผื่นแพ้) วิธีใช้คือ เมื่อล้างหน้าให้สะอาดแล้วซับหน้าให้แห้ง ใช้สำลีก้อนชุบยาแล้วทาให้ทั่วใบหน้าเพียงบาง ๆ เมื่อแห้งแล้วสามารถแต่งหน้าด้วยแป้งฝุ่นได้ตามปกติ จะช่วยให้ผิวดูเนียนเรียบ หลายคนใช้เป็น primer (ทาเป็นขั้นแรกก่อนแต่งหน้า) เพื่อเตรียมผิวหน้าให้เรียบก่อนการแต่งหน้า ด้วยคุณสมบัติดูดซับความมันได้ดีทำให้แป้งติดทนนาน ดูดีได้ตลอดทั้งวัน หน้าไม่มันเยิ้ม และยังเลี่ยงการเกิดสิวได้ด้วยค่ะ
ถ้าไม่ชอบวิธีการที่ต้องทาทุกวันสามารถประยุกต์ใช้โดยการนำมาพอกหน้าสัปดาห์ละครั้งก็ได้ค่ะ ล้างหน้าให้สะอาด เขย่าขวดก่อนใช้ แล้วใช้สำลีชุบน้ำยาทาให้ทั่วหน้า ทิ้งให้แห้งประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า หรือ ถ้าหน้ามันมากก็พอกวันละหนึ่งครั้งก่อนนอน เมื่อหน้าเริ่มหายมันก็ค่อยๆเว้นระยะห่างให้มากขึ้น...วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีผิวมันมากๆนะคะ หรือ ถ้ามีผิวผสมก็เลือกทาเฉพาะบริเวณที่มันเท่านั้นค่ะ ส่วนผู้มีผิวแห้งหลีกเลี่ยงไปเลยค่ะ เพราะจะทำให้หน้าลอกได้...นอกจากนี้เวลาใช้งานให้ทาบางๆ เท่านั้นเพราะอาจเป็นคราบได้
นอกจากนี้เราควรปรับเรื่องกิจวัตรประจำวันของเราด้วย ดังนี้
เรื่องกิจวัตรประจำวัน
1. งดน้ำอัดลม รับประทานผักผลไม้ให้มาก งดอาหารมัน ผักต่างๆ มีวิตามินหลายอย่างปนอยู่ ทำให้ร่างกายทำงานได้สมบูรณ์ขึ้น ร่างกายสมดุลผิวชุ่มชื่น ร่างกายจึงไม่ต้องผลิตน้ำมันออกมามากเพื่อให้ผิวไม่แห้ง
2. ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้อวัยวะภายในของร่างกายทำงานสมบูรณ์ ดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน การดื่มน้ำน้อยเกินไป จะทำให้ไตและตับทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ การขับของเสียพวกไขมันที่เหลือก็จะออกมาทางที่สาม (นอกจากการขับถ่ายสองทางตามปกติ) คือทางผิวหนังหรือรูขุมขน ทำให้ผิวมันได้
4. ล้างหน้าไม่บ่อยเกินไป สัก 2 ครั้งต่อวัน ด้วยสบู่ล้างหน้าที่อ่อนโยนไม่มีน้ำหอม หรือสารเคมีรุนแรง เพราะจะทำให้ระคายเคือง ที่สำคัญคืออย่าพยายามทำให้ผิวแห้งเกินไป เพราะร่างกายจะขับไขมันออกมาปกคลุมอีก
5. เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เพิ่มความชุ่มชื้น แต่ไม่เพิ่มความมัน ให้เลี่ยงมีน้ำมันผสมอยู่ ให้ใช้เป็นเนื้อเจล หรือ น้ำ ที่ไม่ผสมน้ำหอม และสารเคมีรุนแรง
6. การมาสค์หน้า ก็ให้ใช้แบบที่เป็นแบบโคลน (clay-base mask) ธรรมชาติที่แห่งแล้วแข็ง ไม่ใช้แบบที่เป็นโคลนนสังเคราะห์ใช้แล้วก็นิ่มอยู่อย่างนั้น เพราะมาสค์แบบนิ่มจะเน้นเพิ่มความชุ่มชื้นเหมาะกันคนผิวแห้งค่ะ ถ้าเป็นผิวมันใช้ก็จะไม่ช่วยลดความมันลงค่ะ ใช้มาสค์แบบโคลนนี้สักสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ มาสค์จะช่วยดูดความมันและสิ่งตกค้างบนผิวหน้าของเราได้อย่างหมดจด จะช่วยลดการก่อให้เกิดสิว การมาส์คหน้าแต่ละครั้งก็ทาโคลนลงบนผิวชื้นๆ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที หรือทิ้งให้แห้งแล้วล้างออกค่ะ
7. เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ AHA (alpha-hydroxy acids) ซึ่งจะช่วยกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกมา ทำให้ผิวหน้าเนียนใสและยังทำให้เซลล์เหล่านั้นไม่อยู่ให้กลายไปเป็นอาหารของเชื้อแบคทีเรียลงไปอุดรูขุมขนและเกิดสิวขึ้นในโอกาสต่อไป
8. ระวังอย่าให้ถูกแดดมากเกินไป แม้ว่าแสงแดดจะทำให้ผิวแห้งลงได้ แต่การที่ผิวแห้งขาดสมดุลไป จะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำมันออกมา ทำให้ผิวมันหนักขึ้นไปอีก
เป็นอย่างไรคะ เราก็ได้เห็นภาพรวมทั้งหมดในเรื่องการขจัดความมันบนใบหน้า รู้สาเหตุ และ หนทางแก้ไขแบบนี้แล้ว เราก็ลองเลือกวิธีที่เหมาะสมกับเราดูนะคะ
ขอบคุณภาพจากเว๊บไซต์ http://www.globalfashionreport.com
Tag :
หน้ามัน
เป็นสิว
ลดความมัน
แบคทีเรีย
กระดาษซับมัน
ไข่ขาว
ล้างหน้า
ยาระบายแมกนีเซีย
AHA
สารเคมี
Comments to this story