เรื่องของความสูง
ได้ไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพหลายๆเล่ม ที่พูดเกี่ยวกับความสูงในหลากหลายแง่มุม เลยอยากนำมาเล่าให้ฟังกันค่ะ เราเคยรู้กันไหมคะว่าเขามีวิธีในการประเมินความสูงของเด็กได้ด้วยว่าอนาคตเขาจะมีแนวโน้มสูงเท่าไหร่ ช่วงไหนที่เป็นวัยที่เจริญเติบโตที่สุด อาหารการกิน และฮอร์โมนก็สำคัญ...มาดูกันเลยค่ะ
มาประมาณการความสูงกัน
อย่างที่เราทราบกันอยู่แล้วว่าเราทุกคนจะมีลักษณะอย่างไรนั้นในทางวิทยาศาสตร์ ก็ต้องพูดกันเรื่องยีนส์ ที่มาจากกรรมพันธุ์ ถ้าพ่อและแม่ต่างก็มีทั้งยีนเตี้ยและยีนสูง ลูกที่เกิดมาจะมีโอกาสเตี้ย 25% แต่ถ้าพ่อและแม่มียีนเตี้ยทั้งคู่ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้ลูกไม่สูงอย่างที่ต้องการ โดยเราสามารถประเมินส่วนสูงของลูกได้จากส่วนสูงของพ่อแม่ ตามสูตรต่อไปนี้
ส่วนสูงพ่อ+ส่วนสูงแม่ + 2 = ส่วนสูงลูกชาย
2
ส่วนสูงพ่อ+ส่วนสูงแม่ - 2 = ส่วนสูงลูกสาว
2
ช่วงวัยไหนสูงได้มากที่สุด?
แม้กรรมพันธุ์จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เตี้ย แต่ก็ยังมีปัจจัยนอกเหนือจากกรรมพันธุ์ที่ช่วยเพิ่มความสูงได้ เช่น เรื่องการออกกำลังกาย เล่นกีฬา หรือ การรับประทานอาหาร ดังนั้นอย่าเพิ่งถอดใจไปค่ะ
จะกระตุ้นความสูงควรทำในช่วงไหน?...อย่างแรกเราควรจะทราบว่าความสูงในแต่ละช่วงวัยของคนเรานั้นเป็นอย่างไร...ช่วงที่เด็กสูงเร็ว คือ ช่วงปีแรก โดยจะมีความสูงเพิ่มขึ้น 50% และอัตราการเจริญเติบโตจะชะลอลงเมื่ออายุ 2 ปี และจะมีความสูงเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 6-8 เซนติเมตรต่อปี จนเข้าสู่วัยรุ่นวัยนี้เป็นช่วงวัยที่ร่างกายมีอัตราการเจริญเติบโตมากที่สุดก็ว่าได้ประมาณ 2 เท่าค่ะ โดยทั่วไป เด็กผู้หญิงจะเจริญเติบโตเร็วที่สุดเมื่ออายุประมาณ 11.5 ปีและหยุดโตเมื่ออายุประมาณ 18 ปี และ เด็กผู้ชายจะเจริญเติบโตเร็วที่สุดเมื่ออายุประมาณ 13.5 ปีและหยุดโตเมื่ออายุประมาณ 20 ปี เด็กผู้ชายจึงมีช่วงเวลาที่จะโตมากกว่าผู้หญิงถึงสองปีและยังมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่ช่วยให้กระดูกเจริญเติบโตเร็วอีกด้วย ดังนั้นในช่วงปีแรก และช่วงวัยรุ่น จึงเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับเพิ่มความสูงมากที่สุด
นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ โภชนาการที่ดี และการดูแลสุขภาพไม่ให้เด็กเจ็บป่วยบ่อย เพราะจะมีผลในการเสริมความสูงของเด็กนอกเหนือจากผลทางพันธุกรรม และอีกประการหนึ่งที่ต้องยอมรับจริงๆ มีผลทำให้เตี้ยได้คือ การเพาะกาย หรือ เล่นกล้ามในช่วงวัยรุ่น ในขณะที่ร่างกายยังสูงไม่เต็มที่...เพราะว่า อาหารต่างๆ ที่รับประทานเข้าไปจะมุ่งเน้นไปที่กล้ามเนื้อมากกว่าความสูง ทำให้สูงไม่เต็มที่ น่าเสียดายมากๆ ค่ะ ดังนั้นวัยรุ่นชายทั้งหลายควรจะรอให้เราสูงได้มากที่สุดเท่าที่จะสูงได้ก่อนนะคะ แล้วค่อยมาดูเรื่องรูปร่างกันทีหลัง
อาหารก็สำคัญ...เลือกรับประทานอาหารที่ทำให้สูงๆๆๆ
รับประทานอาหารที่ครบถ้วนมีผลต่อการสร้างเซลล์เนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ และกระดูกของเด็กส่งผลต่อความสูง เราจึงต้องดูแลเรื่องโภชนาการอย่างเต็มที่ในทุกช่วงวัย
1. นอกจากการรับประทานอาหารครบทุกหมู่แล้ว ในช่วงที่เด็กเข้าสู่วัยแตกเนื้อหนุ่มสาวควรเน้นอาหารที่จะช่วยเพิ่มส่วนสูงให้เพียงพอ เช่น โปรตีน แคลเซียม วิตามินดี และสังกะสี
2. เน้นกินอาหารประเภทโปรตีนเพื่อเพิ่มการหลั่งโกร๊ธฮอร์โมนซึ่งเป็นสารกระตุ้นความสูง และควบคุมการรับประทานอาหารไขมันสูงและน้ำตาลสูง ซึ่งมีผลทำให้ร่างกายลดการหลั่งโกร๊ธฮอร์โมน
3. ควรงดอาหารขยะหรืออาหารจานด่วน เพราะทำให้เด็กอ้วน มีไขมันสะสมในร่างกายมาก ทำให้เด็กเป็นหนุ่มสาวเร็วกว่าวัย เช่น มีประจำเดือนเร็วขึ้น ที่สำคัญมีผลทำให้หยุดสูงเร็ว เคยเห็นไหมคะเด็กบางคนจะดูว่าสูงกว่าเด็กทั่วไปตอนเป็นเด็ก แต่พอถึงช่วงวัยที่เจริญเติมโตจริงๆ กลับหยุดสูงไปซะอย่างนั้น สุดท้ายจึงกลายเป็นเตี้ยกว่าเพื่อนๆ
4. เลือกอาหารว่างที่มีประโยชน์ เช่น ผลไม้ ผลิตภัณฑ์นมพร่องมันเนย แทนอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ เช่น ขนมขบเคี้ยวต่างๆ น้ำอัดลม น้ำหวาน และควรฝึกให้เด็กดื่มนมจืดอย่างน้อยวันละ 3 แก้ว ถึง 1 ลิตร ต่อวัน
5. การเตรียมอาหารว่างให้เด็กเล็ก ควรให้รับประทานอาหารว่างห่างจากมื้อหลักอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพราะหากเด็กรับประทานอาหารว่างจนอิ่มก็จะไม่อยากรับประทานอาหารมื้อหลัก ทำให้เป็นโรคอ้วนได้
6. กินแคลเซียมเม็ด ต้องทานตามแพทย์สั่ง ไม่ควรรับประทานเกินขนาดนะคะ เพราะถ้ามากเกินไปไม่เกิดประโยชน์ค่ะแถมมีโทษด้วย เพราะแคลเซียมเม็ดส่วนใหญ่จะตกค้างจนก่อให้เกิดโรคนิ่ว หรือทำให้ไม่สูงอีก หรือจะให้ปลอดภัยก็รับประทานแคลเซียมที่ได้จากนมเป็นส่วนใหญ่ หรือจะรับประทานปลากรอบตัวเล็กๆก็ได้เช่นกัน
7.ไม่ควรให้ร่างกายขาดน้ำเป็นอันขาด โดยเฉพาะน้ำที่ได้จากพืช ผัก และผลไม้ เพราะเป็นน้ำที่มีประสิทธิภาพสูง
เรื่องของ Growth Hormone
คุณรู้หรือไม่ว่าหากเราฝึกนิสัยให้ดี ก็จะมีส่วนเพิ่มโกร๊ธฮอร์โมนได้ด้วยนะคะ...โกร๊ธฮอร์โมนนั้น เป็นสารที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและกระบวนการเมตาบอลิซึม ในปี 2003 องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา ยอมรับว่าการใช้โกร๊ธฮอร์โมนเพื่อเพิ่มความสูงนั้นได้ผลจริง แต่ใช้ได้ผลเฉพาะในช่วงก่อนที่กระดูกจะหยุดการเจริญเติบโต แต่ถ้ากระดูกหยุดเติบโตแล้ว วิธีเดียวที่จะเพิ่มความสูงได้ คือ ผ่าตัดเพิ่มความสูง นอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว การดูแลร่างกายให้มีการหลั่งสารโกร๊ธฮอร์โมนในช่วงที่เหมาะสมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้สูงขึ้นได้
1. ไม่ควรนอนดึกและต้องพักผ่อนให้เพียงพอ นอนวันละ 7-12 ชั่วโมง ไม่ควรนอนเกิน 5 ทุ่ม ของทุกวัน เนื่องจากโกร๊ธฮอร์โมนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับความสูงจะเริ่มหลั่งมากที่สุดประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่หลับสนิทในเวลากลางคืน ดังนั้นให้เด็กนอนแต่หัวค่ำ ถ้านอนไม่หลับก็ให้ทำสมาธิหลับไปก็ยิ่งดีค่ะ การพักผ่อนเพียงพอจะมีโอกาสสูงมากกว่าเด็กที่นอนดึกและตื่นแต่เช้า
2. ควรฝึกให้เด็กออกกำลังกายในช่วงวัยรุ่น โดยเฉพาะกีฬาที่มีการยืดตัว เช่น ว่ายน้ำ บาสเก็ตบอล วอลเลย์บอล โหนบาร์ กระโดดเชือกวันละอย่างต่ำ 500 ครั้ง เช้าเย็น (กระโดดด้วยขาสองข้าง ไม่ใช่สลับขากระโดด) หรือ กีฬาที่ต้องกระโดด เพราะนอกจากจะช่วยบริหารกล้ามเนื้อได้ดี การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มการหลั่งโกร๊ธฮอร์โมนด้วย
3. แต่ที่ต้องระวังเรื่องการออกกำลังกายควรวันละ 15 นาทีถึง 2 ชั่วโมง แล้วแต่ความพอเหมาะ ไม่ควรหักโหม เพราะถ้าหักโหมเกินไป พลังงานจะไม่พอที่จะทำให้สูงขึ้นได้
4. ข้อนี้สำคัญอย่าเครียดเป็นอันขาด หากเครียดแล้ว จะทำให้ฮอร์โมนออกมาได้น้อยลง เรื่องเครียดนี่ แม้จะว่าเด็กๆไม่ค่อยมีเรื่องเครียด แต่บางครั้งการที่เด็กเล่นเกมส์มากเกินไป เอาชนะเกมส์ไม่ได้ ก็อาจเกิดอาการเครียดโดยไม่รู้ตัวได้เช่นกัน
ไม่ดื่มน้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากในน้ำอัดลมมีกรดที่ทำให้กระดูกพรุน และแอลกอฮอล์ก็ทำให้โกร๊ธฮอร์โมนลดน้อยลง
5. ไม่นั่งเล่นคอมพ์ หรือ โทรศัพท์มากเกินไป ถ้าเล่นควรพักครั้งละ 30นาที ถึง 2 ชั่วโมง โดยเล่นไม่ควรติดต่อกันเกิน 3ชั่วโมง ไม่เกิน 6 ชั่วโมงต่อวันถ้าท่านทำงานเกี่ยวกับคอม เพื่อพักและออกกำลังกาย ให้ผ่อนคลาย เส้นไม่ยึด เพราะเส้นยึดทำให้เกิดอาการตึง เครียด ทำให้เลือดไม่ไหลเวียน และ โกร๊ธฮอร์โมนทำงานไม่เต็มที่
รู้อย่างนี้แล้วน้องๆ หรือ คุณพ่อ คุณแม่ ควรจะให้ลูกฝึกนิสัยการรัปประทาน การทำงาน การพักผ่อน และการออกกำลังให้ถูกต้องนะคะ เยาวชนของชาติไทยเราจะได้เจริญเติบโตได้เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น...เริ่มตั้งเป้ากันตั้งแต่วันนี้เลยนะคะว่าจะเอาความสูงที่เท่าไหร่ดี ?
Comments to this story